วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559

Social sanction สมัยพุทธกาล ยาวนานถึงยุคปัจจุบัน



เป็นเรื่องราวของพระพุทธเจ้า ที่ถูกนางมาคันทิยา ที่ทำตัวเป็นขาใหญ่ในเมือง เจ๊คนนี้เคียดแค้นพระพุทธเจ้าจากเรื่องในอดีต มาจ้างให้คนอื่น ตามด่าพระพุทธเจ้า และพระภิกษุสงฆ์ ต่างๆนานา ด้วยคำหยาบ เสียดสี หรือเยาะเย้ยก็ตาม เรียกว่าท่านไปที่ไหน เจ๊ก็ให้คนไปตามด่า




พระอานนท์ผู้เป็นพุทธอุปัฏฐาก ยังทนฟังไม่ไหว พระรับไม่ได้ ทูลพระพุทธเจ้า ให้ย้ายไปเมืองอื่นเถอะ

พระพุทธเจ้าถามท่านกลับว่า ถ้าตถาคตเสด็จไปเมืองอื่น แล้วชาวเมืองด่าอีก จะให้ตถาคตทำอย่างไร

พระอานนท์ ก็บอกว่า ก็เสด็จไปเมืองอื่นอีกสิ พระเจ้าข้า คือ คนด่าตรงไหน ก็หนีไปในที่ที่ไม่มีคนด่า

พระพุทธเจ้า เลยตอบกลับ แบบแฝงข้อคิดว่า "อย่าให้เราทำเช่นนั้นเลย เรื่องราวเกิดขึ้นที่ใด ก็ให้จบที่นั่นแหละ ค่อยไปสู่ที่อื่น"

ดังนั้นแล้ว พระพุทธองค์ก็อดทน ไม่ตอบโต้ผู้ที่ตามด่า ใช้เวลาหลายวัน ที่สุดแล้วเรื่องก็จบไปเอง
พระพุทธองค์ เลยเล่าว่า การที่มีคนมาตามด่าแบบนี้ คือผลกรรมในอดีตของท่านเอง





สมัยก่อนท่านเกิดเป็นพราหมณ์ชื่อ สุตวา มีสติปัญหาเฉลียวฉลาด เชี่ยวชาญศิลปะศาสตร์ แตกฉานไตรเพท เก่ง step เทพ ไร้ผู้ได้เทียมทาน ท่านจึงมีชื่อเสียงโด่งดังขจรไกล มหาชนแห่กราบไหว้ ลูกศิษย์มากมายบรรยายไม่หมด

วันหนึ่ง ท่านพาศิษย์ 500 คน ไปเรียนมนต์ในป่า ได้ฤาษีบำเพ็ญเพียรอยู่ ฤาษีบำเพ็ญฌานได้อภิญญา จึงมีฤทธิ์มาก เหาะเหินเดินอากาศได้ แต่ “ผิวดำ” มองแล้วไม่น่าเลื่อมใส พราหมณ์สุตวาจึง have racial discrimination 555 อินเตอร์จ่ะ แปลง่ายๆคือ เหยียดสีผิวค่ะ ไปบอกกับลูกศิษย์ทั้งหมดโดยไม่ได้ consider ให้ดีว่า “ฤาษีตนนี้ มักมาในกามคุณ”





เอาล่ะสิ!!! เมื่ออาจารย์พูดอย่างนี้ ลูกศิษย์มีหรือจะอยู่นิ่งเฉย นอกจากตัวเองเลิกนับถือฤาษีแล้ว ยังไปเที่ยวป่าวประกาศบอกชาวเมือง ให้เลิกนับถืออีก ส่วนชาวเมือง ก็พากันหลงเชื่อ ถ้ามี Facebook คงกด dislike มี IG ก็ unfollow ฤาษีไปเลยหล่ะค่ะ





ด้วยผลกรรมที่พราหมณ์สุตวาทำในครั้งนั้น ทำให้ท่านต้องตกนรกหมกไหม้ เป็นเวลายาวนาน พอเกิดเป็นมนุษย์ก็เคยเจอคนตามด่า พอชาติสุดท้ายได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผลกรรมก็ยังคงตามส่งผล พระองค์ พร้อมพระสาวก 500 ก็ต้องถูกคนตามด่า กว่าผลกรรมจะหมดลง ใช้เวลาตั้งหลายวัน
พระไตรปิฎกที่อ่านมา ย่อเหลือสั้นๆแค่นี้เอง

แต่พาลให้เรื่องราวบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ขึ้นมา ว่า คงไม่ได้มีแต่สมัยพุทธกาลหรอก เพราะยิ่งสมัยนี้ กระแส Social รุนแรง เราใช้สิ่งนี้กันมากเกินไปหรือเปล่า เราพากันใช้กระแสสังคม ใครที่ทำไม่ดี เราพากัน แห่กด like กด share ถอดหน้ากาก กระชากหนังหัว สิ่งไหนที่จริง พวกเราก็ได้ใจ สิ่งไหนที่ไม่จริงเราแค่หงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และขอลืมมันไป สื่อออนไลน์ค่อยๆสอนวิชาพิพากษาให้เราไปตัดสินผู้อื่น





แต่อยากให้ช่วยกันคิดว่าเราใช้สิ่งเหล่านี้มากเกินไป จนเผลอนำมาตัดสินเรื่องราวต่างๆ รวมถึงข่าวพระสงฆ์ หนึ่งในพระรัตนตรัย ที่บรรพบุรุษเรากราบไหว้มายาวนานด้วยหรือเปล่า ทั้งข่าวบิดเบือน บทความ วาดการ์ตูนล้อเลียน แต่งภาพ tag กันสนุกสนาน

สำหรับผู้เขียน ได้พิจารณาด้วยสติปัญญาอันน้อยนิดของตัวเองแล้ว ได้ความว่า ถ้าท่านทำผิดจริง พระท่านถือศีลถึง 227 ข้อ กฎแห่งกรรมก็คงไม่ละเว้นท่าน และโทษทัณฑ์คงหนักกว่าคนปกติอย่างเราแน่นอน

แล้ว???

ถ้าเป็นเรื่องไม่จริงหล่ะ

เรา ไม่ต้องตายเพราะปาก ตกนรกหมกไหม้ไปหรอกหรือ เราโพสท์ เพื่อน share เหมือนป่าวประกาศบอกเป็นพันเป็นหมื่นคน วิบากกรรมไม่ต้องพูดกัน และสุดท้ายอย่างที่บอก พระถือศีล 227 ข้อ ถึงทำผิดไป 200 ข้อ ก็ยังมากกว่าเราๆที่ถือศีล 5 เลย ผู้เขียนจึงอยากขอมาเชิญชวนทุกๆคนว่า


เราอย่าไปด่าว่าพระเลยค่ะ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น