ก่อนจะเริ่ม ขอถามผู้อ่านว่า เรื่องอะไร
ที่วุ่นวาย พัวพัน และมีผลกับชีวิตเรามากที่สุด สิ่งนั้นทำให้คนๆนึง
ขนาดนอนยังฝันถึง แอบยิ้มคนเดียว แอบร้องไห้คนเดียว มีกำลังใจ
หรือหมดกำลังใจในเวลาเดียวใจ อยู่ตั้งแต่เราเด็ก ไปจนแก่
คำตอบที่ใครๆก็เดาได้ สิ่งนั้นก็คือ คือ คือ ??? ความรัก นั่นละฮะ
ท่านผู้ชม
และต่อเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว เล่าเรื่องพระเจ้าปเสนทิโกศล บุคคลผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาและมี part เรื่องราวชีวิตของท่านกับพระพุทธเจ้าเยอะมากๆ ในพระไตรปิฎก ซึ่งผู้เขียนชอบเรื่องราวของท่านมากเลย เพราะท่านไม่ใช่กษัตริย์ในนิยาย ที่เพียบพร้อม ดีงาม ทุกกระเบียดนิ้ว แต่ท่านคือ กษัตริย์ในชีวิตจริง ที่มีความรู้สึกเหมือนคนปกติธรรมดา ธรรมดา มีโลภ โกรธ หลง อ้วน งอน ตลก ชอบเอาชนะ หรือแม้แต่ มีความรัก หรือ ไปแอบรักเขา นั่นเอง

และต่อเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว เล่าเรื่องพระเจ้าปเสนทิโกศล บุคคลผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาและมี part เรื่องราวชีวิตของท่านกับพระพุทธเจ้าเยอะมากๆ ในพระไตรปิฎก ซึ่งผู้เขียนชอบเรื่องราวของท่านมากเลย เพราะท่านไม่ใช่กษัตริย์ในนิยาย ที่เพียบพร้อม ดีงาม ทุกกระเบียดนิ้ว แต่ท่านคือ กษัตริย์ในชีวิตจริง ที่มีความรู้สึกเหมือนคนปกติธรรมดา ธรรมดา มีโลภ โกรธ หลง อ้วน งอน ตลก ชอบเอาชนะ หรือแม้แต่ มีความรัก หรือ ไปแอบรักเขา นั่นเอง
อ้างอิงจาก แห่งแรกเป็นที่แผ่หลายโดยทั่วไป คือ ทุ. สะ. นะ. โส. อยู่ในชั้นอรรถกถา
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พาลวรรคที่ ๕ เรื่องบุรุษคนใดคนหนึ่ง
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=15&p=1
- แห่งที่สองอักษรเรียงดังนี้ ส. โส. น. ทุ. อยู่ในอรรถกถา
อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค โกสลสังยุตต์ ปฐมวรรคที่ ๑ ยัญญสูตรที่ ๙
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=349
- แห่งที่สามอักษรเรียงดังนี้ ส. น. ทุ. โส. อยู่ในบาลีและอรรถกถา
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
๑๕. เสฏฐิปุตตเปตวัตถุ ว่าด้วยบุพกรรมของเปรตเศรษฐีบุตร
http://www.84000.org/tipitaka/read/?26/135
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=135
เรื่องราวของท่านมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งที่ท่านเสด็จเที่ยวชมเมือง ประชาชนเต็มสองข้างทางรอรับเสด็จอย่างเนืองแน่น แต่สายตาคู่นั้นของท่าน กลับไปสะดุดกับหญิงสาวนางหนึ่ง สวยเวอร์วังหยาดฟ้ามาดิน เปิดหน้าต่างแอบดูขบวนเสด็จอยู่ พอนางสบตากับกษัตริย์เท่านั้น ก็ผละหลบไป แต่ไม่ทันแล้ว อย่างว่า คนมันสวย เห็นแค่ลูกกะตา ก็รู้ว่าสวย หน้าตา จริตจะก้านเช่นนั้นกลับโดนใจพระเจ้าปเสนทิโกศลอย่างแรง เรียกว่า หายใจเข้าเฮ้อเธอ หายใจออกเฮ้อเธอ ท่านจึงให้ มหาดเล็กไปสืบว่า หญิงนั้นมีสามีหรือยัง ถ้ายัง จะขอรับนางนั้นเป็นมเหสีเอง (ดูเสียสละนะคะ แต่ความจริงคือ พระเจ้าปเสนทิโกศลมีมเหสี คือพระนางมัลลิกาคนงามอยู่แล้ว!!! ให้ตายเถอะ ผู้ชาย)

แต่ก็ไม่เป็นดังหวัง นางมีสามีซะแล้ว แต่น่ารักขนาดนี้ ลืมไม่ลง พี่ลืมไม่ลง พระราชาจึงคิดกลอุบาย ให้สามีของนางมาเข้าวัง ทั้งแต่งตั้งให้เป็นมหาดเล็กอีกด้วย ไม่ใช่เพราะหวังดี แต่มีแผนจ้า แผนเผื่อให้เขากระทำผิด จะได้ ริบ เมียเขามานั่นเอง (ฝ่ายสามีของนางก็พอจะมี sense นะ ว่าพระราชา คงอยากได้ยาใจของเกล้ากระหม่อม แต่ทำไงได้ ขัดท่านไม่ได้ ก็ท่านเป็นพระราชา แต่เขาก็พยายามทำหน้าที่ ไม่ให้บกพร่องที่สุด) โดยต่อมา พระราชาก็คิดอุบายรับสั่งให้เขาไปเอาดินสีแดง และดอกอุบล จากสระโบกขรณี ซึ่งอยู่ไกลจากเมือง 1 โยชน์ (16 กิโลเมตร) และกลับมาให้ทันภายในวันนั้น ถ้ามาไม่ทันมีโทษ แต่พระราชา กลับบอกให้วันนี้ปิดประตูเมืองเร็วกว่าเดิม (แล้วเขา จะทำได้ไหม ทำได้รึเปล่า)

ฝ่ายสามีก็รีบสุดๆในการไปเอาดินมา ทันเวลาน่ะ แต่ๆๆๆ ประตูเมืองปิดแล้ว ขอร้องนายประตูอย่างไร ก็ไม่เปิด จึงอธิษฐานกับเทวดาหน้าประตู ว่าไม่ได้ทำผิดเลย ประตูต่างหาก ที่ปิดก่อนเวลา เขาเศร้าใจมาก จึงหันหน้าเข้าหาวัด ไปนอนที่วัดพระเชตวัน นั่นเอง
คืนนั้น พระราชา บรรทมอย่างกระสับกระส่าย จนเคลิ้มหลับไป หมายมั่นปั้นมืออย่างยิ่ง ว่าพรุ่งนี้แหละ น้องคนงามริมหน้าต่างต้องเป็นของพี่แน่นอน แต่พอตกดึก ฝันว่าได้ยินเสียงประหลาด 4 คำ คือ ทุ สะ นะ โส ตื่นขึ้นมา ด้วยความที่เป็นพระราชา ไม่ว่าฝันอะไร สุดท้ายก็ไปลงที่ปุโรหิตตามเดิม
ฝ่ายปุโรหิต ก็มืดแปดด้าน ไม่รู้จริงๆว่าฝันของท่านมีความหมายว่าอะไร แต่ขึ้นชื่อว่าปุโรหิตแล้ว จะมีอะไรเล่า ฝันนี้คือลางร้าย แก่พระองค์ หรือราชสมบัติแน่ ทางแก้คือต้องบูชายัญ ตามหลักสูตรปุโรหิตแห่งชาติ แล้วพระราชาก็รับสั่งให้เตรียมพิธี เอาสัตว์ 500 ชีวิตมา จนเกิดเสียงฮือฮาไปทั่วเมือง

ฝ่าย พระนางมัลลิกา อัครมเหสีทราบเรื่อง จึงกราบทูลพระราชาให้เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเถอะ (เห็นได้ว่า พระนางมัลลิกานี่หลักแหลมจริงๆ ถ้าเป็นผู้เขียน นี่ถ้ารู้ว่าสาเหตุมาจากแฟนจะไปมีกิ๊กแล้วละก็ โดนบ้องสักป๊าบ) แล้วพระราชาก็กราบทูลถึงฝันเมื่อคืน พระพุทธเจ้าจึงแสดงธรรมว่า เสียงนั้นไม่ใช่ลางร้ายอะไรหรอก แต่คือ เสียงสัตว์นรก 4 ตนนั่นเอง
เอ้าๆ!!ใกล้จบแล้วค่ะ ถึงตอนสำคัญแล้ว ปูเสื่อรอให้ดี
สัตว์นรก 4 ตนนั้น เคยไปทำกรรม คือ สมัยก่อน ทั้ง 4 เคยเกิดเป็นลูกเศรษฐี รวยอลัง แต่ไม่สนใจบุญทานใดๆ เรียกว่า มีทุกอย่างยกเว้นประโยชน์ และเรื่องที่ดันขยันทำนัก คือ ไปแอบกิ๊ก แอบกั๊กแฟนชาวบ้าน สนุกไปวันๆ เท่านั้น พอทั้ง 4 คนนี้ตายไป ก็ไปตกนรก พอมาเป็นสัตว์นรก รู้สึกสำนึกผิด อยากจะประกาศว่า ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์จะเลิกทำชั่วเด็ดขาด แต่ไม่มีเวลาพูด เพราะพูดได้แค่คนละ 1 คำ เท่านั้น ใส่ไว้ใน Spoil นะคะ บอกแล้วว่าเล่าให้เพื่อนฟัง
เปรตตัวแรกต้องการพูดว่า
ทุชชีวิตะชีวิมหา เยสันโน นะทะทามหะเส
วิชชะมาเนสุ โภเคสุ ทีปัง นากัมหะ อัตตะโน
เมื่อยังเป็นมนุษย์มีโภคทรัพย์มากมาย เราก็ไม่ได้ให้ทาน ไม่ทำที่พึ่งแก่ตัว ทำแต่ความชั่วช้าสารเลว
ตัวที่สองต้องการพูดว่า
สัฏฐี วัสสะหัสสานิ ปะริปุณณานิ สัพพะโส
นิระเย ปัจจะมา-นานัง กะทา อันโต ภะวิสสะติ
เราตกนรกหมกไหม้เป็นเวลาหกหมื่นปีแล้ว เมื่อไรจะสิ้นเวรสิ้นกรรมเสียที
ตัวที่สามต้องการพูดว่า
นัตถิ อันโต กุโต อันโต นะอันโต ปะฏิทิสสะติ
ตะทาหิ ปะกะตัง ปาปัง มะมะ ตุยหัญจะ มาริสา
ไม่มีที่สุดสิ้นดอก เมื่อไหร่เล่ามันจะสิ้นเวรสิ้นกรรม ก็พวกเราทำแต่ความชั่วช้าสารเลวนี่ เพื่อนเอ๋ย
ตัวที่สี่ต้องการพูดว่า
โสหัง นูนะ อิโต คันตวา โยนิง ลัทธานะ มานุสิง
วะทัญญู สีละสัมปันโน กาหามิ กุสะลัง พะหุง
ถ้าเราได้เกิดเป็นมนุษย์อีก เราจะให้ทานรักษาศีล จะทำบุญกุศลเป็นอันมาก

สรุปแล้วคือรู้สึกผิดนั่นแหละ มาเตือนพระเจ้าปเสนทิโกศล ว่าอย่าได้อยากได้ผู้หญิงของคนอื่นในทางมิชอบ หรือไปบูชายัญเลย เดี๋ยวตกนรก
สุดท้าย พอจบพระธรรมเทศนา สามีของนางคนสวย ที่นั่งฟังอยู่ (ที่มาวัดตั้งแต่เมื่อคืนไง จำไม่ได้เหรอ) ก็บรรลุโสดาบัน ส่วนพระเจ้าปเสนทิโกศล ก็ ไม่ได้บรรลุอะไร แต่ก็สลดพระทัย คิดได้ว่า เกือบไปเอาภรรยา ของรักของคนอื่น มาเป็นของตน ทั้งยังเกือบทำบาปฆ่าสัตว์มากมาย ตกนรกหมกไหม้เป็นเปเรส (เปรตนั่นแหละ) ไปแล้วววววววว

เรื่องราวของพระเจ้าปเสนทิโกศล ตอนนี้ ก็จบลงแล้ว แต่ยังเป็นข้อคิดสะกิดใจดีๆว่า ของๆใคร คนนั้นก็รัก เราเดี๋ยวนี้ ถ้านึกสนุก จะแอบคบ แอบคุย กับใคร ก็ทำได้ง่ายมากๆ หารู้ไม่ว่าผลที่เกิดต่อจากการนึกสนุกนั้น มันมิอาจประมาณได้ เราอาจจะไม่มีสัตว์นรกตนไหนมาเตือน เมื่อจะกระทำผิด แต่ความผิด มันก็จะติดอยู่ในใจ และติดอยู่กับตัวเราตลอด รอวันที่จะส่งผล ถ้าเราไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใคร ก็อย่าไปทำเรื่องนั้นกับคนอื่นเลย ซื่อสัตย์ต่อคนที่คุณรัก สำคัญที่สุดเลยค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น