ไม่ว่าจะเกิดมาหน้าตาดีหรือไม่ แต่การมีหน้าใส อ่อนกว่าวัย ย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาแน่นอน
และเคยสังเกตไหมว่า ทำไมผู้ชอบปฏิบัติธรรม ถึงได้หน้าเด็กหน้าใสกัน หรือพระอาจารย์ที่ท่านปฏิบัติกรรมฐานก็ตาม หน้าตาจะผ่องใสทั้งๆที่ไม่ได้ประทินผิวกันเลย เพราะอะไร เจ้าของกระทู้เลยตั้งข้อสังเกต → สมมุติฐาน → พิสูจน์ดู → เอามาแชร์กัน

1. อย่างแรก การสวดมนต์ค่ะ เพราะเป็นสมาธิอย่างง่าย ได้บุญในการภาวนา และความลับอยู่ตรงนี้
การกราบ ศีรษะของเรา หน้าผากที่จรดแนบกับพื้น (ค่อยๆกราบนะ กราบเร็วๆประหลกๆไม่ช่วยอะไร) ช่วยให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงที่ส่วนกะโหลกและใบหน้า (ใครกลัวเป็นสิว หาผ้าสะอาดๆรองหน้าผากนะ)

การทำวัตรเช้า 1 ครั้ง อย่างน้อยเราจะต้องกราบ 3 ครั้ง ถึง 3 เซต คือ รวม 9 ครั้ง
การทำวัตรเย็น จะมีบทกาเยนะ วาจายะ... ให้กราบค้างประมาณ 10 วินาที 3 รอบด้วยกัน (ท่านี้) และกราบปกติ 9 ครั้ง
สรุปคือ เราจะได้กราบวันละอย่างน้อย 21 ครั้ง ซึ่งท่านี้คล้ายกับท่าโยคะ เรียกว่าท่าหน้าเด็กอีกด้วย

ส่วนนอกเหนือจากการกราบช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์แล้ว การสวดมนต์ ยังช่วยในเรื่องสมาธิอย่างง่าย(จะอธิบายอีกหัวข้อ) ถ้าสวดออกสียง ก็ช่วยให้พูดได้ชัดถ้อยชัดคำขึ้นด้วย เพราะภาษาบาลีจะออกเสียงเป็นคำๆ ตรงตามอักขระอย่างชัดเจน ใครต้องการฝึกการพูด ฝึกเป็นพิธีกร สวดมนต์ช่วยได้ค่ะ
ไม่เชื่อใช่ไหมหล่ะ งั้นลองออกเสียงบทนี้ลองดู
"โยโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม
สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง
อิเมเหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ
สาธุโน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา
อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ
อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ"
สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม
สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง
อิเมเหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ
สาธุโน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา
อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ
อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ"
เรียกว่าอานิสงค์ทั้งสวยชาตินี้และชาติหน้า คุ้มแบบนี้ลองทำกันดูนะคะ
บทสวดมนต์ที่เจ้าของกระทู้สวดเป็นประจำ ตามนี้เลย
ทำวัตรเช้า
ทำวัตรเย็น

2. ความลับที่ 2 นั่งสมาธิ

หลายๆคนรู้ว่าสมาธิดี แต่ทำไม่เป็น ไม่ชอบนั่ง แล้วมันจะเกี่ยวกับความอ่อนเยาว์ได้อย่างไร
ให้ลองนั่งสมาธิ แล้วสังเกตการณ์หายใจของตัวเองดูนะคะ จากที่เริ่มนั่งเราจะหายใจแรง แต่ค่อยๆนั่งไปลมหายใจจะค่อยๆเบาขึ้น ละเอียดขึ้น จนเหมือนไม่หายใจเลย ความลับอยู่ตรงนี้คือ เราใช้ออกซิเจนน้อยลง อัตราการเผาผลาญก็น้อยลง เราก็แก่ช้าขึ้น ที่เป็นเช่นนี้ มีคำตอบในทางทฤษฎีว่า
พ.ศ. 2510 ดร.เฮอร์เบิร์ต เบนสัน ผู้ก่อตั้งสถาบันรักษาใจและกาย (Mind/Body Medical Institute) ศาสตราจารย์สอนวิชาแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Havard Medical School) รัฐแมสซาชูเซ็ทส์ ได้ทำการทดลองกับ นักปฏิบัติธรรม จำนวน 36 คน ผลการวิจัยพบว่า
1. อัตราการใช้ ออกซิเจน ลดลง 17% หมายความว่า ถ้าร่างกายใช้ ออกซิเจน น้อยลง
อัตราการเผาผลาญ ในร่างกายก็จะ ลดลง ไปด้วย เมื่อเผาผลาญลดลงร่างกายก็เสื่อมน้อยลง เช่นกัน เมื่อร่างกายเสื่อมน้อยลง หน้าตาก็จะ อ่อนกว่าวัย และอายุขัยก็จะ ยืนยาว อัตราการเต้นของหัวใจ ลดลงนาทีละ 3 ครั้ง หมายความว่า หัวใจจะแข็งแรงและ ไม่ต้องทำงานหนัก เหมือนแต่ก่อน

2. สามารถบันทึกคลื่นสมองของคนเราได้ ด้วยการเอาเครื่อง EEG มาฉายแสดงออกเป็นเส้นกร๊าฟ ผลการวิจัยของ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สรุปอย่างชัดเจนว่าสมาธิก่อให้เกิด คลื่นสมองธีต้า (Theta wave)
นอกเหนือนี้ ประโยชน์ง่ายๆของการนั่งสมาธิ คือ ลดความเครียด ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค มีอารมณ์เยือกเย็น มีความคิดที่เฉียบคม เบิกบาน มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์สูง นี่คือผลส่วนหนึ่งของการนั่งสมาธิเท่านั้นเอง หากท่านใดทำสมาธิได้เชี่ยวชาญขั้นสูง ได้อภิญญาต่างๆ จากการนั่งสมาธิเหมือนๆกับพระเกจิอาจารย์ที่เรารู้จักก็สามารถเรียนรู้ต่อไปได้
สำหรับใครที่อยากนั่ง แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร คุณหนูดี วนิษา เรซ

แนะนำว่า นั่งสมาธิวันละ 12 นาที หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที และก่อนนอน 20 นาที
เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Thet a ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุดๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ค่ะ
อีก 1 เคส ที่ปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพทางเลือกมืออาชีพให้กับคนดังอย่าง วิกกี้ วัลโคลนิส เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของดาราฮอลลีวู้ด ที่เคยได้ชือว่าสวยที่สุดในโลก อย่างกวินเน็ท พาโทรว์ ในหนังสือ The Body Doesn’t Lie ว่า พาโทรว์จะก็นั่งทำสมาธิผ่อนคลายทุกวัน วันละ 3 เวลา ครั้งละ 15 นาที คือ
เช้า เพื่อการมองโลกในแง่ดี
บ่าย เพื่อตั้งเป้าหมาย
เย็น เพื่อทบทวนและปล่อยวาง
ไม่เชิงเป็นการนั่งสมาธิแบบเราๆเท่าไหร่ แต่คือนั่งนิ่งๆ ปล่อยวาง หยุดคิด และปิดทุกอย่าง

เธอเอ๋ย คนที่สวยที่สุดในโลกยังนั่งสมาธิเลย แล้วสวยในซอยอย่างเรา จะไม่นั่งได้อย่างไร
การนั่งสมาธิ ก็ทำได้ไม่ยาก แล้วแต่ความชอบนะคะ บางคน ชอบนั่งเฉยๆ บางคน หรือภาวนาแล้วแต่ถนัดของแต่ละคนเลย แต่เจ้าของกระทู้ชอบฟังดนตรีเบาๆผ่อนคลายก่อน แล้วค่อยนั่งเฉยๆสัก 20 นาทีค่ะ


ข้อมูลในกระทู้นี้ เจ้าของกระทู้ก็ได้ข้อมูลจากการสังเกต ค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต และลองทำดู เพราะเป็นคนสนใจเรื่องธรรมะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
แล้วถามว่า หน้าเด็กหน้าใสหรือยัง ต้องตอบเลยว่า ดีกว่าตอนไม่รู้จักเข้าวัดเข้าวามากเลย เพราะตะก่อน เครียดง่าย→เป็นสิว→ยิ่งเครียด→กิน→อ้วน→เครียดยิ่งกว่าเดิม เป็นวัฏจักรเรื่อยไป แต่ตอนนี้เป็นสิวนานๆที (ถ้าช่วงไหนนอนดึก) พอหน้าดีขึ้น ชีวิตก็สดใสขึ้นน่ะ ไม่ต้องเชื่อกันก็ได้ แต่อยากให้ลองทำดู
ถ้าใครเคยไปปฏิบัติธรรมสัก 3 วัน 7 วัน จะเห็นได้ว่า ขนาดเราใส่ชุดขาว ไม่ได้แต่งหน้า แต่พอถ่ายรูปออกมา หน้าตากลับสว่างผ่องใสกว่าตอนแต่งหน้าจัดเต็มเสียอีก การสวดมนต์นั่งสมาธินั้น สามารถทำได้ในชีวิตประจำวันเลย แต่ถ้าว่าง ลองหาสถานที่ปฏิบัติธรรมไปพักกายใจจากหน้าที่การงานนะคะ เริ่มวันวิสาขบูชานี้ก็ได้ รับรองว่ากลับ เพื่อนร่วมงานอาจจะทักว่ามาฝึกงานหรือเปล่าก็เป็นไปได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น