๑.ช่วยชีวิตมันโดยการไถ่ชีวิต ซื้อสัตว์ที่กำลังถูกฆ่านำมาปล่อย
๒.เมตตาสัตว์ไม่ทำร้ายมัน อย่างนี้เป็นบุญ
แต่การกินเจ บุญไม่เกิด เพราะเราไม่ได้ลงมือกระทำจริง(ช่วยชีวิตสัตว์) เป็นเพียงแต่คิดไปเอง
พระเทวทัตเคย มาเสนอให้ชาวพุทธไม่กินเนื้อสัตว์พระพุทธเจ้าปฏิเสธ พร้อมให้เหตุผลว่า
๑. เนื้อสัตว์ไม่ใช่ของเหม็น อกุศลกรรมต่างหากที่เป็นของเหม็น
๒. พระต้อง ควรเป็นผู้เลี้ยงง่าย
๓. อนุญาตในการกินเนื้อสัตว์ที่ -ไม่เห็น -ไม่รู้ -ไม่ใช่เนื้อที่ฆ่าโดยเฉพาะให้ตน
๔. อาหารเป็นแค่ของเลี้ยงกายไม่ให้ตาย อย่าสนใจมาก
การกินเนื้อสัตว์ บาป หรือ ไม่ ?
การที่จะวินิจฉัยว่าบาปหรือไม่บาปนั้น ต้องพิจารณาว่า การกินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว เป็นการผิดศีลข้อปาณาติบาต หรือไม่ ศีลข้อปาณาติบาต คือ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ นั้นจะผิดศีลก็ต่อเมื่อประกอบด้วย องค์ ๕ คือ
๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต
๒. ปาณสญฺญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
๓. วธกจิตฺตํ จิตคิดจะฆ่า
๔. อุปกฺกโม พยายามที่จะฆ่า
๕. เตนมรณํ สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
เมื่อครบองค์ประกอบทั้ง ๕ ข้อ จึงถือว่าเป็นการฆ่าสัตว์ ผิดศีลข้อที่ ๑ เป็นบาป แต่ถ้าไม่ได้ลงมือฆ่าเอง และไม่ได้ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ก็ไม่เป็นบาป ตัวอย่าง เราไปจ่ายตลาด ซื้อกุ้งแห้ง ปลาดุกย่าง ปลาทู เนื้อหมู ฯลฯ เราได้มีส่วนร่วมในการฆ่าสัตว์เหล่านั้นหรือไม่ สัตว์เหล่านั้นย่อมตายก่อนที่เราจะไปซื้อมาเป็นอาหาร ถึงเราจะซื้อหรือไม่ซื้อ สัตว์เหล่านั้นก็ตายอยู่แล้ว เราไม่ได้มีส่วนทำให้ตาย
======
ลังกาวตารสูตร ตกนรกทั้งคนซื้อคนฆ่าสัตว์
พระพุทธองค์ตรัสว่า….โอ. มหาบัณฑิต เพราะว่า เขาผู้ฆ่าสัตว์ชนิดใดๆ ก็ตามเพื่อเงิน และเขาผู้ซึ่งจ่ายเงินซื้อเนื้อนั้น ทั้งสองพวกชื่อว่าเป็นผู้ประกอบอกุศลกรรม และจักจมสู่โรรุวะนรกและนรกอื่นๆ...
จากลังกาวตารสูตร
ลังกาวตารสูตร เป็นคัมภีร์หลัก (Text) ของพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน. เป็นคัมภีร์หนึ่งในเก้าคัมภีร์ซึ่งเป็นคัมภีร์สำคัญ ที่เรียกว่าสูตร สูตรหนึ่งนั้นมิใช่สั้นๆ เช่นที่เราเข้าใจกัน แต่เป็นหนังสือเล่มขนาดใหญ่ หรือคัมภีร์หนึ่งนั่นเอง.
====
====
ขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะคะ ตามที่เคยฟังเพื่อนชาวไต้หวันเล่าให้ฟัง (นานแล้วนะ แถมเป็นภาษาจีนด้วย เราอาจถ่ายทอดมาไม่ได้ 100%
เกริ่นนำนิดนึงว่า ไต้หวันเป็นประเทศที่ประชากรกินเจเยอะมากประเทศนึงเลยนะคะ ทั้งกินเพื่อสุขภาพและทางศาสนา
เพื่อนเราเล่าแบบให้คิดตามไปด้วยนะ บอกว่า พระสงฆ์ดำรงชีพอยู่ได้ด้วยการบิณฑบาต ถ้าเกิดกินเจ คือมีเงื่อนไขว่าญาติโยมจะต้องใส่อาหารเจเท่านั้น ก็คงเป็นสิ่งยุ่งยาก (ประมาณว่าพระเรื่องเยอะ ญาติโยมมีศรัทธาตักบาตรแล้วยังต้องโน่นนี่นั่นอีก เป็นที่ลำบากของญาติโยม) เราก็ว่าเออจริงแฮะ
ต่อมาพระพุทธศาสนาได้เผยแผ่มาถึงจีน แล้วมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับการเมืองกับศาสนาพุทธ (ตรงนี้แหละที่เราฟังไม่ค่อยออกว่าเหตุการณ์อะไร ภาษาจีนเราไม่ได้เก่งมากหน่ะ) แล้วทำให้พระสงฆ์ต้องหลบหนีขึ้นไปอยู่ตามป่าเขา ซึ่งพระก็จำเป็นต้องหุงหาอาหารเอง (บนป่าเขาใครจะตามไปใส่บาตรล่ะเออ) คราวนี้พระมีศีลข้อสำคัญที่ต้องรักษาคือปาณาติปาตา เวระมณี ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต พระท่านจึงไม่สามารถล่าสัตว์มาประกอบอาหารได้ ได้แต่เก็บผักหรือขุดเผือกมันมาประกอบอาหาร นี่เป็นสาเหตุให้พระมหายาน (พระพุทธศาสนาในจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เป็นนิกายมหายาน) จึงกินเจ
สรุปก็คือพระมหายานกินเจเพราะเหตุผลทางภัยการเมือง ไม่ใช่สิ่งที่เป็นพุทธบัญญัติ
ส่วนความคิดเห็นของเราก็ว่า การไม่เนื้อสัตว์ถ้าเราไปฆ่ามันเองหรือสั่งให้ฆ่า อย่างเช่นไปที่ร้านอาหารแล้วชี้เอาปลาเป็นๆตัวนี้ กุ้งแม่น้ำตัวนี้ไปประกอบอาหาร อันนี้ผิดศีล บาปแน่ๆ แต่ถ้าเป็นการไปซื้อเนื้อสัตว์ตามตลาดมาประกอบอาหารก็ไม่น่าจะผิดอะไรนะ เราไม่ได้มีเจตนาฆ่าหนิ
======
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น